ประวัติคอร์เรอา และนักบอลสังกัดอัตเลติโกมาดริด จะมีใครที่น่าสนใจกันบ้าง
ประวัติคอร์เรอา บทความกีฬาที่น่าสนใจ เหตุการณ์ที่ว่านี้นั้นเกิดขึ้น หลังจบเกมการแข่งขัน กัลโซ่เซเรียอาอิตาลี ในคืนวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคมปี 2021 ซึ่งก็เป็นเกมที่ ลาซิโออินทรีฟ้าขาว เปิดบ้านและสามารถเอาชนะอินเตอร์มิลานงูใหญ่ ในแบบที่ว่าเกิดดราม่ากันเลยทีเดียว 3 ประตูต่อ 1 ไม่จบเกมดังกล่าว ก็มีเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น
เมื่อแนวรับของลาซิโออย่าง ลุยซ์ เฟลิเป วิ่งเข้าไปแล้วกระโดดขี่คอ Joaquin Correa เล่นในตำแหน่งกองหน้า ของอินเตอร์มิลาน สาเหตุที่เขาทำแบบนั้น ก็เพียงเพราะว่า เขาแค่อยากหยอกล้อกับเพื่อนเท่านั้น ด้วยความที่ว่าทั้งสองคนนั้น สมัยก่อนก็เป็นเพื่อนซี้กัน
ประวัติคอร์เรอา กับเรื่องดราม่าล่าสุด จะลงเอยด้วยดีหรือไม่
ประวัติคอร์เรอา ในช่วงเวลาที่ Stadio Olimpico แต่ในตอนนั้น correa ก็ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะเล่นด้วยเท่าไหร่ ด้วยความที่ว่าเขาเสียใจ ที่ทีมของเขาแพ้ในศึกครั้งนี้นั่นเอง จากนั้นเขาก็สะบัดเฟลิเปออกไป จากนั้นผู้เล่นในทีมงูใหญ่ ก็วิ่งเข้าไปเพื่อหวังจะเอาเรื่อง ด้วยความที่ว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้น เขาคิดว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะเยาะเย้ย
ต่อมาผู้ตัดสินก็ได้ให้ใบแดงกับเฟลิเป ภายหลังต่อมา ลุยซ์ เฟลิเป ก็ได้ไปอธิบายให้กับเพื่อนเขา ถึงตอนที่เขาเลือกที่จะกระโดดใส่ แล้วก็ยืนยันว่า ทั้งหมดนั้นเขาแค่ต้องการหยอกล้อเพียงเท่านั้น
หลังจากที่เรื่องนี้คลี่คลายลง ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ลุยซ์ เฟลิเป ก็โพสต์ไอจีชี้แจง ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเขาโพสต์เป็นภาษาอิตาลี และข้อความที่เขาโพสต์ชี้แจงก็มีดังนี้
“สิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องทำให้ชัดเจนนะว่า ผมมีความเคารพอย่างสูง ต่ออินเตอร์มิลานหรือสโมสรอื่น ๆ เราทุกคนล้วนเป็นมืออาชีพ ที่ทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แล้วจะไม่มีวันขาดความเคารพ ต่อเพื่อนร่วมอาชีพคนอื่นแน่นอน ในตอนนั้นหลังจากเกมจบลง ผมลงเอยด้วยการกระโดด ไปอยู่บนหลังของตูคู
เพราะเขาเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท ที่ฟุตบอลมอบให้ผม ครอบครัวของเราเป็นเพื่อนกัน แล้วเราก็สนิทสนมกันมาก ในตอนนั้นสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด ก็คือกอดเขา และหยอกล้อกัน เป็นเพราะผมคิดว่าความสัมพันธ์ของเรา ก็สนิทกันมากพอ แต่แล้วมันก็เป็นเรื่องขึ้นมา
มันอาจจะไม่ใช่เวลา หรือสถานที่ที่เหมาะสม ผมขอโทษทุกคน ที่รู้สึกขุ่นเคืองกับเรื่องนี้ และทำให้ชัดเจนว่า ผมไม่ได้พยายามดูหมิ่นเขา หรือนักกีฬาคนอื่น หรือว่าสโมสรอินเตอร์และแฟนบอล มันเป็นการกระทำที่ไร้เดียงสา ของคนคนนึงที่มีต่อเพื่อนรักอย่างตูคู รักนายนะเพื่อน” @tucucorrea
โดยทางด้านคอร์เรอา ก็ได้โพสต์ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน โดยเขาได้โพสต์ว่า ผมขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ จากทุกมุมมอง ประการแรกสำหรับแฟนบอล เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีอยู่เสมอ
แน่นอนว่าลุยซ์เพื่อนของผม อาจจะทำอะไรผิดที่ ผิดเวลาไปหน่อย ดังนั้นปฏิกิริยาของผม จึงออกมาอย่างที่เห็น ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้เราหันกลับมามองข้างหน้า และไปต่อกันเถอะ นี่ก็เป็นเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทของเขาแล้วก็เขา
ประวัติของชายที่มีชื่อว่า อังเฆล คอร์เรอา เขาเริ่มเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้อย่างไร
เปิด ประวัติคอร์เรอา กันบ้าง ขอเป็นนักฟุตบอลสัญชาติ อา เจน ติ น่า ในปัจจุบันนั้น เขาก็ได้เล่นในตำแหน่งกองหน้า แล้วก็ตำแหน่งปีก ให้กับสโมสรอัตเลติโกมาดริด ซึ่งก็เป็นสโมสรในลาลิกา แล้วก็ทีมชาติอาร์เจนตินาด้วย
ประวัติคอร์เรอา การเริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขานั้น เริ่มต้นตอนที่เขาอายุ 18 ปี สโมสรแรกที่เขาลงเล่นก็คือ ปีกับซานโลเรนโซ ซึ่งอยู่ในอาร์เจนตินาเมื่อปี 2013 และเขายังมีผลงานที่โดดเด่นคือ สามารถพาทีมชนะ ตอร์เนโออินิซิอัล ในปี 2013 ในปี 2014 นั้น
เขาได้ย้ายไปร่วมกับสโมสร อัตเลติโกมาดริด แม้ในปี 2015 เขาก็ได้ลงเล่นฟุตบอลไปกว่า 350 นัดแล้ว ช่วยเหลือทีมให้ชนะหลายรายการได้แก่ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ยูฟ่ายูโรปาลีกในช่วงปี 2018 แล้วก็ศึกลาลีกาในปี 2021
เขาได้รับการคัดเลือกให้ติดทีมชาติ อาร์เจนตินา สำหรับวัยไม่เกิน 20 ปี ในช่วงปี 2015 นั้น เขาก็ได้รับตำแหน่งกัปตันทีม และสร้างผลงานโดยการพาทีม ให้สามารถชนะการแข่งขัน ในระดับทวีปได้ และในตอนนั้น เขาก็ได้รับ รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี ของรายการแข่งขันดังกล่าวด้วย
ต่อมาก็เป็นจุดเริ่มต้น ประวัติคอร์เรอา ของการเล่นกับทีมชาติชุดใหญ่ของเขาตั้งแต่นั้น สำหรับผลงานของเขานั้น ก็มีหลายอย่างมาก ในช่วงที่อยู่สโมสรซานโลเรนโซ ในปี 2013 นั้น ก็สามารถพาทีมชนะลีกสูงสุดอย่าง ปริเมราดิบิซิออน
ต่อมาในปี 2014 ก็ยังพาทีมไม่ได้รับชัยชนะในศึก โกปาลิเบร์ตาโดเรส ต่อมาก็เป็นผลงานของเขา ในช่วงที่เขานั้นย้ายมาเล่นใน สีเสื้ออัตเลติโกมาดริด นั่นก็สร้างชื่อเสียงของ ประวัติคอร์เรอา ได้อย่างมากทีเดียว
มาต่อกันที่ ประวัตินักฟุตบอลอีกคนหนึ่งใน สังกัดอัตเลติโกมาดริด จะเป็นใครกันนะ
สำหรับชายผู้นี้เขาก็มีความฝัน ที่อยากจะเป็นนักฟุตบอล มาตั้งแต่ยังเขานั้นยังเด็ก เที่ยวไปขอทดสอบฝีเท้ ากับทีมต่าง ๆ มากมาย ทว่าสิ่งที่เขาได้รับกลับมามีแต่คำปฏิเสธ เหตุผลเพียงเพราะว่า เขาเป็นเด็กที่มีสภาพร่างกายที่เล็กเกินไป แถมไม่ใช่แค่ครั้งหรือ 2 ครั้งนะ ที่เขาถูกบอกปัดโอกาส ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
แต่ อ็องตวน กรีซมันน์ ดาวเตะแชมป์โลกทีมชาติฝรั่งเศส เขาเคยถูกปฏิเสธมาแล้วมากถึง 6 ครั้ง โดยในวัยเด็กของ อ็องตวน กรีซมันน์ เขามีความฝันสูงสุด คือการได้เป็น นักฟุตบอลอาชีพ และคุณพ่อก็สนับสนุนเขาอย่างมากกับความคิดนี้ อีกทั้งตัวเขาเองก็มีพรสวรรค์ ในการเล่นฟุตบอล ที่โดดเด่นและเหนือกว่า เด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน
กรีซมันน์ มีครบทุกอย่าง ทั้งความเร็ว เทคนิค ทักษะการเลี้ยงบอล แต่สิ่งเดียวที่เขามีไม่เหมือนเด็กคนอื่น คือร่างกายที่ใหญ่โตพอ ที่จะใช้มันเพื่อปะทะคู่แข่ง บ้านเกิดของกรีซมันน์ อยู่ที่เมืองมากง ซึ่งแน่นอนว่า มีสโมสรท้องถิ่นในละแวกนั้นอยู่บ้าง
แต่ด้วยความสามารถที่เขามี มันทำให้เขามีฝันที่ใหญ่กว่านั้น ด้วยการเดินทางไกล กว่าร้อยกว่ากิโลเมตร เพื่อไปขอทดสอบฝีเท้า กับสโมสรใหญ่อย่างโอลิมปิกลียง ในวันนั้นที่กรีซมันน์ไปคัดตัว ที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยเด็กกว่า 100 คนจากทั่วสารทิศ รวมไปถึง อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต ซึ่งปัจจุบันเล่นอยู่กับ สโมสรอาร์เซนอล ก็เป็นหนึ่งในนั้น ในการทดสอบ
กรีซมันน์ทำผลงานได้ดี ไม่น้อยหน้ากว่าใคร แต่สุดท้ายแล้ว โอลิมปิกนิยมเลือกที่จะมองข้ามเขา ด้วยเหตุผลว่าตัวเขาเล็กเกินไป และบ้านก็อยู่ไกลจากสโมสรเป็นร้อย ๆ กิโล
โดยทางสโมสรมีความเห็นว่า ถ้าจะออกค่าใช้จ่ายให้ หรือแม้แต่หาบ้านพักให้ มันจะคุ้มค่าหรือเปล่า นั่นคือครั้งแรกที่ อ็องตวน กรีซมันน์ ได้รู้จักกับคำว่าผิดหวัง แม้จะถูกปฏิเสธมาจาก โอลิมปิกลียง แต่เขาและคุณพ่อก็ยังคงไม่ยอมแพ้
ในคราวนี้เขาจัดรถทัวร์ ไปยังสโมสรแซ็งเตเตียง เพื่อขอออดิชั่นเป็น นัก ฟุตบอล และคราวนี้เขาก็ยังทำผลงานได้ดีเช่นเดิม และก็ได้รับคำปฏิเสธเหมือนเดิมเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่ทางผู้ใหญ่ของสโมสร มองว่าร่างกายของเขา บอบบางและตัวเล็กจิ๋วเกินไป
จะเล่นเป็นกองหน้า แต่ตัวเท่าลูกหมาเนี่ยนะ จะไปสู้อะไรใครเขาได้ นั่นคือคำพูดจากโค้ช ที่ทำการออดิชั่นเขาในวันนั้น และมันได้สร้างความผิดหวังให้กับ กรีซมันน์อย่างมากเป็นครั้งที่ 2
ความผิดหวังทั้ง 5 ครั้งของกรีซมันน์ ก่อนที่จะมาเป็นเขาในปัจจุบัน
โดยฝรั่งมีคำกล่าวที่ว่า Third time lucky ที่สื่อว่า หากคุณผิดหวังมาแล้ว 2 ครั้ง ความพยายามครั้งที่ 3 มักจะโชคดีเสมอ กรีซมันน์ได้หอบ 2 ขา กับความฝันของตัวเอง ไปพรีเซนต์งานกับสโมสรโซโชซ์ นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว กับการคัดตัวเพื่อเข้าสู่ทีมสักทีมหนึ่ง
และเขาก็หวังว่ามันจะเป็น Third time lucky สำหรับเขา แต่ความเป็นจริงก็คือ เขาถูกปฏิเสธอีกครั้ง ด้วยเหตุผลเรื่องรูปร่างที่เล็กเกินไป ในสายตาของผู้อำนวยการอะแคเดมี่ ที่ใช้คำปฏิเสธแบบอ้อม ๆ ว่า ให้ไปพัฒนาร่างกายให้ดูดีกว่านี้ก่อน แล้วค่อยกลับมาลองใหม่อีกครั้งใน 2-3 ปีข้างหน้า
ใช่แล้ว กรีซมันน์ได้ถูกปฏิเสธ และ Third time lucky ไม่มีจริงสำหรับเขา จนถึงตอนนี้กรีซมันน์ เริ่มรู้สึกท้อแท้ขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะเสียใจที่ต้องถูกปฏิเสธ เพียงเพราะ เหตุผลเรื่องร่างกายที่เล็กเกินไป
เขาคิดว่าทำไมไม่มีใครมองเห็น ฝีเท้าที่ดีของเขาบ้างเลย แต่เขาก็ยังคงไม่ย่อท้อต่อความฝัน และมุ่งหน้าไปทดสอบฝีเท้า กับสโมสรโอแซร์ ในวันนั้นมีเด็กมาทำการคัดตัวร่วม 30 คน โดยกรีซมันน์เป็นหนึ่งในนั้น
โดยแมวมองของสโมสรที่มีชื่อว่า แวงซองเกแปง จดจำเขาได้ และได้กล่าวถึงเรื่องในครั้งนั้นว่า กรีซมันน์ไม่ถูกเลือก เพราะมีร่างกายที่อ่อนแอและบางเกินไป ซึ่งถ้าเขาไปคัดตัวกับที่ไหน ผลลัพธ์ก็คงไม่ต่างกันหรอก ความผิดหวังครั้งที่ 4 เดินทางเข้ามาจับมือกรีซมันน์อีกครั้ง
ด้วยเพราะฟุตบอลที่ฝรั่งเศสในตอนนั้น มีค่านิยมในการที่จะมองหาผู้เล่น ร่างกายที่บึกบึนแข็งแกร่งเอาไว้ก่อน ทำให้กรีซมันน์ไม่เคยได้รับ การเหลียวแลเลย น้ำตาที่ไหลรินอาบหอมแก้ม คือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าตอนนี้ กรีซมันน์สิ้นหวังและท้อแท้อย่างมาก
กับความฝันที่ไม่เคยได้รับโอกาสให้เติมเต็ม แต่คุณพ่อของเขา ยังคงให้กำลังใจ และกระตุ้นให้ลูกชายนั้น เงยหน้าสู้ฟ้าเข้าไว้ กรีซมันน์จึงพบว่า ตัวเขาเองได้มายืนอยู่ใน สนามซ้อมของสโมสรเอฟซีแมท เพื่อทำการทดสอบฝีเท้าเป็นครั้งที่ 5 แล้วคราวนี้ เหมือนทุกอย่างมันจะดี
เพราะเขาผ่านการคัดตัวรอบแรกไปได้ แล้วทีนี้เขาได้มีโอกาสในการลงเล่น แบบเต็ม ๆ ในการแข่งซ้อม และสตาฟของสโมสร ก็พูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ เกี่ยวกับฝีเท้าอันจัดจ้าน ของเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่า กรีซมันน์ ทุกอย่างมันกำลังจะเป็นจริง
หนังสือสัญญาถูกร่างขึ้นมา รอเพียงแค่ลายเซ็นจากคุณพ่อและกรีซมันน์เท่านั้น แต่ทว่าอยู่ดี ๆ สโมสรก็ดึงเรื่องกลับ และยกเลิกทุกอย่าง โดยไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายให้เขาฟังเลย โดยอ็องตวน กรีซมันน์ได้เล่าว่า ผมพยายามมา 2 ครั้ง คือซ้ำแล้วกับซ้ำเล่า แต่แม้จะทำดีแค่ไหน
คำตอบก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ยิ่งผมพยายามมากแค่ไหน ผลตอบแทนที่ได้รับกลับมา ยิ่งทำให้ผมเจ็บปวดใจมากเท่านั้น 5 ครั้งแล้ว ที่กรีซมันน์ต้องผิดหวัง ตอนนี้เขาแทบไม่มีความมั่นใจ ในตัวเองหลงเหลืออยู่ หัวใจของเขาบอบช้ำอย่างที่สุด
เขาไม่อยากจะออกไปไหน เพื่อทดสอบฝีเท้ากับใครอีกแล้ว แต่โอกาสครั้งที่ 6 ก็เดินทางมาในรูปแบบเสียงโทรศัพท์ ที่ปลายสายได้พูดว่า เราอยากให้นายมาเข้าแคมป์ที่มงเปอลีเยสัก 4 วัน มาลองดูหน่อยไหมไอ้หนู โดยสโมสรมงเปอลีเย !!
ครั้งหน้าเรายังมี ประวัติมาร์ติเนซ และ ประวัติคาเซมิโร่ นักบอลซูเปอร์สาตร์ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน มาฝากเพื่อน ๆ กันอย่าพลาดข่าวสารดี ๆ เรื่อของวงการฟุตบอลจากเว็บไซต์ของเรา
ติดตามบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เขียนโดย อลิส
