ประวัติมาร์ติเนซ
บทความกีฬาที่น่าสนใจ

รู้จักกับนายทวาร ของอาร์เจนติน่าอย่าง ประวัติมาร์ติเนซ เหตุใดเขาจึงได้ชื่อว่า เป็นตัวตึงแห่งสโมสรนี้

ประวัติมาร์ติเนซ อาร์เจนติน่า มาทำความรู้จักกับตัวตึงคนนี้จะเป็นอย่างไร

ประวัติมาร์ติเนซ เรื่องราวของ มาร์ติเนซ อาร์เจนติน่า ชื่อ มาร์ติเนซ ภาษาอังกฤษ ก็คือ emiliano martinez มาติเนซ ตัวตึงเกินไป ของอาร์เจนตินา กระแทกเป้า อุ้มเอ็มบัปเป้เต้นแบบเร้าใจ ลีลาแดนซ์เร้าใจ ของตัวตึงอาเจนตินา

สบถด่า ฟาน กัล อุ้มตุ๊กตาหน้าเอ็มบัปเป้ บอกให้ยืนไว้อาลัย เอาถุงมือทองคำกระแทกเป้า โยนบอลทิ้งให้คนยิงจุดโทษไปเก็บเอง หาเรื่องลีลาถ่วงเวลามาแบบครบสูตร วีรกรรมของตัวเปิดตัวตึงของฝั่งฟ้าขาว

ประวัติมาร์ติเนซ ชายผู้ลั่นคำพูดว่า ชีวิตเขาก็ให้ได้ ถ้าเมสซี่จะคว้าแชมป์

นี่คือเรื่องราวของตัวตึง ที่หลัง ๆ ชักจะตึงเกินไปแล้วนะ มาติเนซ นายทวารนาม เอมิเลี่ยโน มาติเนส ผู้อยู่ในมุมมืด เฝ้าทำงานหนักมาทั้งชีวิต เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เป็นได้แค่ผู้ รักษา ประตู ในแชมเปี้ยนชิป เป็นได้แค่แฟนบอลข้างสนาม ในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 เขาไม่มีส่วนร่วมใด ๆ

จนถึงวันที่โลกได้รู้จัก โคตรนายด่านปราการชาวอาร์ เจน ติ นา เมื่อแสงสว่างมันส่งมาถึง สกาโลนี่ ตัดสินใจเรียกมาติเนซเข้าทีมชุดใหญ่ และเขาได้ประกาศคำพูดที่บอกว่า..

จะยอมตลอดชีวิตตัวเอง เพื่อเมสซี่ เลโอเนลเมสซี่คือ 99.9% ของทีมนี้ แล้วพวกเราที่เหลือคือ 0.1% ผมหวังว่าจะช่วยเขา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้ได้ ผมจะทำทุกอย่าง แม้ว่าจะต้องสละชีวิตตัวผมเองก็ตาม มาร์ติเนซประกาศก้องคำนี้ ให้เมสซี่และโลกได้รับรู้ครับ

มาร์ติเนซ อาร์เจนติน่า

และเรื่องราวของ ประวัติมาร์ติเนซ ตัวเขาเอง กับอาร์เจนมันก็ตึงเปรี๊ยะเกินจะบรรยาย เริ่มตั้งแต่ฟุตบอลโคปาปี 2021 เวทีใหญ่ด่านแรกของเขา กับอาร์เจนตินา ตั้งแต่นัดแรก มาร์ติเนซก็โชว์ฟอร์มเทพ มาร์ติเนซ เซฟจุดโทษ ของบิดัลช่วยให้ทีมไม่แพ้ นัด 2 3 4

ประวัติมาร์ติเนซ ก็เซฟจนคลีนชีท ทั้ง 3 นัด ส่วนในรอบรองชนะเลิศ ดวลจุดโทษกับโคลัมเบีย มาร์ติเนซก็โชว์คลาส ด้วยการเซฟลูกโทษ 3 ลูก ด้วยการเล่นเกมปั่นประสาทใส่นักเตะฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะภาพจำอย่าง เยร์ริ มินา ที่โดนจัง ๆ มาร์ติเนซพูดก่อนมินายิงครับ

กูรู้ว่ามึงประหม่า กูรู้หมดแหละ ว่ามึงจะยิงไปทางไหน เดี๋ยวกูจะเซฟให้ดู และมินาก็วิ่งมายิง แต่มันไม่ผ่านมือมาร์ติเนซ เขาเซฟลูกนั้นได้จริง ๆ สุดท้ายชายคนนี้ พาอาร์เจนผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปเจอกับบราซิล ความร้อนแรงของ เอมี่ มาร์ติเนซ รายนี้ยังคงยอดเยี่ยม เซฟลูกยิงจ่อ ๆ ของ ริชาร์ลิซอน เซฟลูกยิงของ บาร์บอซา ในช่วงท้ายเกม

และสุดท้ายอาร์เจนตินาเป็นแชมป์ นี่คือกุญแจสำคัญ ถ้วยใบแรกกับความสำเร็จแรกของเมสซี่ ในฐานะทีมชาติอาร์เจนตินา ถ้วยใบแรกที่ยิ่งใหญ่ ของชายคนนั้น

มาร์ติเนซคือส่วนสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ เหมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไป เขามาพร้อมกับ ความเย้ายวนกวนประสาท จิตวิทยาที่ไม่เคยสนอะไรทั้งนั้น และในศึกฟุตบอลโลกปีถัดมา มาร์ติเนซก็กลายเป็นตัวตึงเปรี๊ยะอย่างแท้จริง

เขาร้อนเป็นไฟ มันยากเหลือเกินที่จะยิงผ่านวินเซฟลูก ยิงฟรีคิกเม็กซิโกช่วยทีมไม่เสียประตู เก็บคลีนชีทนัดเจอโปแลนด์ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มโดนยิงไปแค่ 2 ลูก เกมเจอกับออสเตรเลีย ก็โชว์เซฟลูกยิงจ่อ ๆ ของ กาแรง คูล ในช่วงท้ายเกม ไม่ให้ทีมโดนตามตีเสมอ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม และเกมเจอกับ เนเธอร์แลนด์นี่แหละครับ

ตำนานการแดนซ์ มันก็มาเยือนโลกฟุตบอล ตั้งแต่ช็อตไม่มีอะไรเลย เขารับบอลลอยกลางอากาศ แล้วไปสะกิดกับ เดอ ยอง นิดหน่อย แต่มาร์ติเนซหาเรื่องถ่วงเวลาแบบเนียน ๆ

รวมไฮไลท์ในสนามของ มาร์ติเนซ อาร์เจนติน่า ชายคนนี้ เขานั้นกวนประสาท และยอดเยี่ยมมากแค่ไหน

มาที่ไคลแม็กซ์อย่างลูกจุดโทษ ที่โคตรจะพีค ฟาน ไดจ์ค ยิงไม่ผ่านมือ กับจังหวะที่ดีใจ ใส่หน้ากองเชียร์ฝั่งตัวเอง เบิร์กไอซ์ยิงไปติดเซฟเขาอีกครั้ง และความเร้าใจก็เกิดขึ้น เอมี่ มาร์ติเนซ เต้น เย้ายวนกวนประสาท สเต็ปแบบหน่องแน๊ง ๆ มันยียวนเหลือเกินครับ

สุดท้าย ประวัติมาร์ติเนซ ชายคนนี้ พาทีมผ่านเข้ารอบไปได้ เมสซี่วิ่งมาสวมกอดเขาแต่ยัง มันยังไม่จบครับ มาร์ติเนซยังเปรี้ยว ด้วยการฉลองแบบถอดเสื้อดีใจ แล้วไปสวนกลับฟาน กัลที่เคยปากแจ๋วไว้ก่อนเกม มาร์ติเนซวิ่งเข้าไปหาพร้อมทั้งเยาะเย้ยทั้งสบถ

เพราะฟาน กัลให้สัมภาษณ์ว่า ถ้ายื้อไปถึงจุดโทษ พวกเราชนะอาร์เจนแน่ ส่วนมาร์ติเนซก็สวนกลับว่า พวกเขาพูดเรื่องโง่ ๆ ก่อนเกม สิ่งนั้นมันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น จนถึงตอนนี้ผมคิดว่าฟาน กัลควรจะหุบปากได้แล้วนะ

มันเป็นการเอาคืนแบบชุดใหญ่ จัดหนักจัดเต็ม สวนกลับแบบเต็มประเด็น แต่มันยังไม่จบไม่สิ้นครับ เกมรอบรองกับโครเอเชีย มาร์ติเนซยังมีจังหวะเซฟให้ได้เห็น ลูกยิงของปาซาลิช ที่มันแฉลบแล้วบอลเกือบเข้าประตู แต่เขาก็เซฟ สุดท้ายอาร์เจนคุมทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ

และนัดชิงชนะเลิศนี้ โคตรไฮไลท์ของเจ้าตัวเลยครับ ไม่ใช่แค่เซฟแต่มันเป็นในรายละเอียดเกมทั้งหมด ทำทุกอย่างให้ทีมได้เปรียบกวนประสาทปั่นล้วน ๆ ในเกม กับการพยายามเก็บทุกเม็ดเอาทุกจังหวะ เกมการแข่งขันนัดนี้ ที่มันราวกับบทละครดี ๆ พลิกกันไปพลิกกันมาไม่รู้จบ

ประวัติมาร์ติเนซ

และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 120 บวก 3 จังหวะสำคัญสุด โคตรเซฟของเกมก็เกิดขึ้นครับ มัวนีหลุดได้ไปดวลกับมาร์ติเนซ ซัดจ่อ ๆ ล่อไม่เหลือ แต่มาร์ติเนซยังโชว์ความยอดเยี่ยม กางแขนกางขาบล็อกลูก ยิงจังหวะนั้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

มันกลายเป็นเซฟแห่งทัวร์นาเมนต์ราวกับ อิเกร์ กาซิยาส เซฟลูกยิงของร็อบเบน มันโหดถึงขนาดที่ว่า นักเตะฝรั่งเศสข้างสนาม วิ่งลงมารอดีใจแล้ว แต่มาร์ติเนซดับฝันทุกคน ต้องไปตัดสินกันต่อที่ลูกจุดโทษ หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นตำนานครับ

ลูกจุดโทษกับความกดดันมหาศาล เกมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ ความกดดันทั้งที่มันถูกส่งมายัง ผู้ รักษา ประตู ทั้งสองคน ลูกแรกของการยิงผ่านไปแบบไม่มีใครเซฟได้ คือการยิงของเมสซี่และเอ็มบัปเป้ แต่ในลูกที่ 2 โคมานดวลกับมาร์ติเนซ เขายิงแล้วมาร์ติเนซเซฟเน้น ๆ ครับ

ชายคนนี้ดีใจกระโดดชกลมสาวหมัด 3 ครั้ง ติดต่อกันต่อหน้าโคมานตรงนั้น มาต่อด้วยการปั่นประสาท ด้วยการโยนบอลทิ้งให้ ซูอาเมนี คนยิงจุดโทษคนต่อไป ไปเก็บเอามายิงเอง จนสุดท้ายซูอาเมนีที่ไม่นิ่งพอ และยังเด็กยิงพลาดออกไป มาร์ติเนซลุกขึ้นเต้นกวน ๆ กับสเต็ปที่คุ้นตา

สรุปบทที่อาร์เจนตินา คว้าชัยชนะในการดวลจุดโทษ ด้วยสกอร์ 4 – 2

ประวัติมาร์ติเนซ ช่วงสำคัญ ช่วยให้ความฝัน ทัพฟ้าขาวกลายเป็นจริง ถ้วยฟุตบอลโลกใบนั้นเป็นของพวกเขา ความยียวนของมาร์ติเนซมันยังไม่สิ้นสุด แค่ในเกมการแข่งขัน ภาพการรับรางวัลถุงมือทองคำ พร้อมกับการเอาไปตั้งที่เฝ้า แล้วทำหน้ากวนตีนที่ทำเอาชีคยังเหวอ กับเหตุผลที่ว่า มันคืองานแฮนด์จ็อบของเขา

ภาพการปลอบใจเอ็มบัปเป้ในสนาม แต่เมื่อเข้าไปในห้องแต่งตัว กลับร้องเพลงล้อเลียน บอกให้ทุกคนเงียบ แล้วยืนไว้อาลัยแบบโคตรปั่นประสาทสุด ๆ ยังขยี้ซ้ำ ด้วยการฉลองถ้วยที่บ้านเกิด การถือตุ๊กตาหน้าเอ็มบัปเป้ และราวกับบอกว่า เอ็มบัปเป้เป็นเด็กน้อยในกำมือ ล้อเลียนมันยียวน

เสียงวิจารณ์มันดังก้อง ไปสนั่นโลกถึงการให้เกียรติ การเคารพซึ่งกันและกัน แต่ในทางเดียวกัน มันคือการเอาคืนเอ็มบัปเป้ ที่เคยวิจารณ์ฟุตบอลฝั่งอเมริกาใต้ เอาไว้อย่างร้อนแรง มาร์ติเนซเป็นตัวตึงเกินไปแล้ว ของอาร์เจนตินาตึงเปรี๊ยะ ๆ เลยครับ

ประวัติมาร์ติเนซ กับความยียวนกวนส้น… แบบไม่รู้จักจบรู้จักสิ้น มันคือหนึ่งในกลยุทธ์ ที่เขาใช้เพื่อทำลายสมาธิคู่แข่ง โดยเฉพาะในการดวลจุดโทษ เราเห็นผลมานักต่อนัก สมาธิหลุดปุ๊บ เสร็จมาร์ติเนซปั๊บ มาร์ติเนซทำแบบนั้น มาตลอดในการดวลลูกโทษ มันได้ผลเสมอหากใครจำกันได้

ทีมลีกก็มีช็อตแบบนี้ ให้โรนัลโด้ยิงแทนบรูโน หรือในรอบรองชนะเลิศโคปา มาร์ติเนซที่ยั่วยุมินา ด้วยคำพูดจนเซฟลูกนั้นได้ เหล่านี้มันคือสไตล์การเล่นฟุตบอลของชายคนนี้ มันคือสงครามปั่นประสาทที่เขาสร้างขึ้นมา และมักเอาชนะได้เสมอครับ

และแน่นอนสิ่งเหล่านี้ มันจะมาพร้อมกับคำวิจารณ์ ถ้ามันมากหรือเกินมากเกินไป ประเด็นเอ็มบัปเป้ที่คนล้อเขากลับว่า กลัวใช่ไหม ที่โดนไอ้เด็กคนนี้ ล่อจุดโทษไป 3 ลูกเซฟไม่ได้ หรือคำถามถึงน้ำใจนักกีฬาก็ตาม ไม่ว่ายังไงภาพจำของมาร์ติเนซ กลายเป็นตัวตึงอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้วครับ

นี่คือ ประวัติมาร์ติเนซ ชายผู้สร้างตำนานบทใหม่บทใหญ่ให้กับทัพฟ้าขาว กับเรื่องราวนี้ มาติเนส ประตู ตัวตึงเกินไปไหมของอาร์เจนตินา

เอมี่ มาร์ติเนซ

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องราว ชีวประวัติของเขานั้น จุดเริ่มต้นที่แสนยากลำบาก และเขาประสบความสำเร็จได้เพราะอะไร

บทความกีฬาที่น่าสนใจ สำหรับเอมิเลียโน่ มาร์ติเนซนายด่านชาวอาร์เจนตินาวัย 27 ปี ก็เป็นหนึ่งในนายทวารตัวสำรองตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใช้ชีวิตอยู่กับม้านั่งสำรองข้างสนาม มากกว่ากรอบเขตโทษ ในสนามการแข่งขัน แต่ไม่ว่าคุณจะได้ชื่อว่า เป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำ ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

นั่นคือการฝึกซ้อมร่างกายของตนเอง ให้อยู่ในสถานะที่พร้อมจะลงไปทำศึกอยู่เสมอ อมิเลี่ยโน มาติเนสเกิดที่ มาร์เดลปลาตา ประเทศอาร์เจนตินา ในครอบครัวที่แสนยากจนข้นแค้น เขาเติบโตและไขว่คว้าโอกาส จนได้เข้ามาเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชน อินดิเพนเดนเต้

ถึงแม้ว่าเขากำลังจะเดินตามความฝันของตนเอง แต่ทุกย่างก้าวของเขาในเวลานั้น ไม่มีครอบครัวคอยเคียงข้าง เหมือนเด็กคนอื่น นั่นก็เพราะว่าครอบครัวของเขาไม่มีแม้เงินมากพอ ที่จะเดินทางมาเป็นกำลังใจให้เขา ในการลงสนาม ผมเคยเห็นพ่อของผม นอนพร้อมน้ำตาอาบ 2 แก้มทุกคืน

เพราะท่านไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน เพื่อมาเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ด้วยสาเหตุนั้นผมจึงต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อช่วยเหลือท่าน จากนั้นพออายุได้ 17 ปี โอกาสสำคัญในชีวิต ก็ลอยมากับสายลม เมื่อสโมสรอาร์เซนอลทีมใหญ่ แห่งประเทศอังกฤษได้ยื่นข้อเสนอให้เขา

เพื่อลองไปทดสอบฝีเท้าที่ลอนดอน แน่นอนครับว่าถ้าเเอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ตัดสินใจจะไป เขาต้องเดินทางไปคนเดียว เพราะครอบครัวของเขา ที่แม้กระทั่งเงินจะเข้ามา ดูเขาเล่นฟุตบอลที่ บัวโนสไอเรส ยังไม่มี และนับประสาอะไรกับการซื้อตั๋วเครื่องบิน ในการบินลัดฟ้าข้ามทวีป

แต่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและความเชื่อว่า เขาจะต้องพลิกความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ได้ ทำให้เด็กหนุ่มมาร์ติเนซตัดสินใจมุ่งสู่ เอมิเรตส์ สเตเดียม นั่นเป็นครั้งแรกที่ จนในที่สุดแล้วครับ เขาก็ได้รับการบรรจุให้เข้ามา เป็นส่วนหนึ่งของทีมให้ปืนใหญ่ แห่งกรุงลอนดอน ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

ประวัติมาร์ติเนซ ในตอนนั้นแม้คุณพ่อ คุณแม่ รวมถึงพี่ชายของผมจะร้องไห้ เพราะพวกท่านไม่อยากให้ผมจากบ้านไปไกล แต่ผมจำเป็นต้องทำเพื่อครอบครัวของเรา ทว่าแม้เขาจะมีฝีมือมากแค่ไหน แต่การที่ทีมมีผู้รักษาประตูตัวจริง ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมอยู่ก่อนแล้วทั้ง วอยแชค ชแชนสนือ

ต่อมาก็เป็น ปีเตอร์ เช็ก รวมถึง ดาวิด ออสปินา และปัจจุบันก็เป็น แบนท์ เลโน ซึ่งแต่ละคนก็มีดีกรีและมีฝีไม้ลายมือ ที่ยอดเยี่ยมทั้งสิ้น มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับมาร์ติเนซ ที่จะแทรกตัวขึ้นมาเป็น ตัวเลือกแรกของทีมได้ นับตั้งแต่ปี 2010 เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซพบว่าตัวเขาเอง ต้องถูกปล่อยให้กับสโมสรต่าง ๆ ยืมตัวไปเล่น

เป็นจำนวนทั้งสิ้น 6 สโมสร นั่นคือ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด,เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์,ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด,วูล์ฟแฮมป์ตัน,สโมสร เรดิงและเฆตาเฟที่สเปน โดยเขามีโอกาสลงสนามให้กับอาร์เซนอลเพียงแค่ 14 นัดเท่านั้น ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นครับ

ตัวเขาเองก็ไม่เคยย่อหย่อนในความพยายาม เพราะเขายังคงมุ่งมั่นฟิตซ้อมร่างกาย และพัฒนาความสามารถของตนเองอยู่เสมอ ในช่วงที่วงการฟุตบอลถูกล็อกดาวน์ จากไวรัสโควิด เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ก็ยังคงทำหน้าที่ของตนเอง ด้วยการรักษาสภาพความฟิตอยู่ที่บ้าน

จนภรรยาของเขาเอง ยังสงสัยว่าจะทำไปทำไม แต่เขาก็ตอบกลับไปเพียงว่า เขาต้องพร้อมอยู่เสมอ คำว่าต้องพร้อมอยู่เสมอที่ มาร์ติเนซพูดกับภรรยา คือสิ่งที่เขามีติดตัวมาตั้งแต่แรก จนกระทั่งในวันที่สายลมแห่งโอกาส ได้พัดพาเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อแบนท์ เลโนได้รับบาดเจ็บหนัก จากการปะทะกับนักเตะของสโมสรไบรท์ตัน ในเกมพรีเมียร์ลีก หลังกลับมารีสตาร์ทใหม่ จากนั้นมาครับ ดาเมียน มาร์ติเนซ วันที่เข้าร่วม ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริง และตัวเขาเองก็คว้าโอกาสนี้ ด้วยการทุ่มเทสุดความสามารถ

สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาให้เห็น แล้วก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของทีม ในการก้าวไปคว้าแชมป์ FA Cup สมัยที่ 14 ของสโมสรได้สำเร็จ นี่ล่ะครับคือจุดเริ่มต้น ของความสำเร็จของชายคนนี้ ที่เขาฝ่าฟันมาอย่างยากลำบาก

ถึงแม้ในตอนนี้ เราแทบจะไม่ได้เห็นคราบ ของเด็กผู้ด้อยโอกาสในตอนนั้นเลย และบอกเลยว่า ลิซานโดร มาร์ติเนซ ค่าตัว ของเขาก็ไม่ธรรมดาอยู่ที่ 55.3 ล้านยูโรบวกเพิ่มอีก 12.5 ล้านยูโรเท่านั้นเอง

อ่านบทความที่น่าสนใจกันต่อด้านล่างนี้

เขียนโดย อลิส

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *