เดวิด มอยส์ เรียกได้ว่าเขาก็คือผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมคนหนึ่งแห่งเกาะอังกฤษ และเขานี่แหละที่เคยได้รับรางวัล ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีไปถึง 3 สมัยเลยทีเดียว ซึ่งเป็นช่วงที่ทำผลงานได้ดีงาม ตอนที่อยู่กับเอฟเวอร์ตัน ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเงินสนับสนุนเลย เขาคนนี้เริ่มที่จะมาเอาดีในการเป็นโค้ชอาชีพ ตอนที่อายุแค่ 22 ปีเท่านั้น ซึ่งยังไม่ต้องพูดถึง ตํานานลิเวอร์พูล fifa 4 หรือ ฟุตบอลโลก 2010
กุนซือชาวสก็อตคนนี้ ความจริงเขาเคยเป็นนักเตะอาชีพซึ่งอยู่ในทีม กลาสโกว์ เซลติก ซึ่งเคยไปเตะในการแข่งขันถ้วยยุโรป ถึงแม้ว่าความดับของเขาจะเทียบ โชเซ มูรินโญ ไม่ได้แต่เขาร่วมกับทีมก็สามารถคว้าแชมป์มาด้วย ก่อนที่เขาจะย้ายไปซบอก เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด บริสตอล ซิตี้ และอีกหลายทีมจนไปหยุดอาชีพนักเตะกับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ และที่นี่เองเขาก็รับหน้าที่ เป็นโค้ชทีมแรกในชีวิตของเขา
เดวิด มอยส์ ก้าวเข้ามาเป็น โค้ชเอฟเวอร์ตัน เต็มตัวต่อจาก แกรี่ปี เตอร์ส
มอยส์ เริ่มต้นสืบทอดตำแหน่งมาจาก แกรี่ ปีเตอร์ส ซึ่งตอนนั้นเขาเพิ่งจะมีอายุแค่ 34 ปีเท่านั้นแต่เนื่องจากที่เคยมีชื่ออยู่ในทีมของสต๊าฟโค้ชมาก่อนแล้ว ที่ตอนนั้นยังช่วยทำให้ทีมไม่ได้ร่วงชั้น ไปอยู่ดิวิชั่นสาม ด้วยการเปลี่ยนสไตล์การเล่นของสโมสรซึ่งจากที่เคยเล่นแบบสาดบอลยาว มาเล่นแบบเน้นการจ่ายบอลสั้นนั่นเอง
และเมื่อขึ้นแท่นเป็นผู้คุมทีมแบบเต็มฤดูกาล เดวิด ก็ได้พาทีมผ่านไปได้ในรอบเพลย์ออฟ และเลื่อนชั้น ก่อนที่จะไปแพ้ให้กับ อจิลลิ่งแฮม งานนี้เองทำให้เขาได้รับการสรรเสริญจากแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งต่อมาตอนปี 2000 เปรสตันก็เลื่อนขั้นขึ้นไปเล่นในระดับดิวิชั่น 1 ซึ่งไปในฐานะแชมป์ได้สำเร็จ
เป็นที่น่าเสียดายที่ 12 เดือนต่อมาพวกเขาดันไปแพ้ให้กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่เข้าไปแข่งกันในรอบเพลย์ออฟ ทำให้ทีมก็เลยพลาดโอกาสที่จะเลื่อนขั้นไปเล่นในลีกสูงสุดได้ ช่วงเวลาต่อมาเขาก็ต้องย้ายออกจาก เปรสตัน แต่ก็ตกเป็นข่าวกับ มิลเดิ้ลสโบรซ์ เซาแธมป์ตัน และเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ก่อนที่เขาจะไปจบกันที่ทีมเอฟเวอร์ตันตอนต้นปี 2022 สาเหตุที่เอฟเวอร์ตันเลือกเขามาเป็น ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน เพราะเคยเห็นที่ มอยส์ ทำทีม เปรสตันให้สำเร็จมาแล้วด้วยงบประมาณอันน้อยนิด
พาทีมให้รอดจากการตกชั้นและกลายเป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม
หลังจากที่ โค้ชเอฟเวอร์ตัน พาทีมรอดได้จากที่ลงแข่งไปเพียงแค่ไม่กี่นัดเท่านั้น ซึ่งในฤดูกาลต่อมา เขาก็ถูกเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งเขาเกือบจะพาทีมไปแข่งกับถ้วยยุโรปได้ แต่ในฤดูกาลต่อมาทีมกลับไปสู่ความตกต่ำอีกครั้ง ในฤดูกาล 2003-2004 แถมยังต้องเสียดาวยิงอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ไปให้กับทีมแมนยูฯอีกต่างหาก
ในที่สุดด้วยความสามารถของ เดวิด ในฐานะ โค้ชเอฟเวอร์ตันล่าสุด ก็สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เขากลับพาทีม ไปจนจบที่อันดับ 4 ของตารางในฤดูกาลต่อมา ทำให้ทีมก็ประสบความสำเร็จอีกครั้ง กับสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่ง เรียกว่าไล่บี้คู่แข่งไปแบบเต็มร้อยและ มอยส์ ก็สามารถคว้ารางวัล ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน มอยส์ ยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองได้อีกครั้งเป็นสมัยที่ 2
ต่อมา โค้ชเอฟเวอร์ตัน ถูกมองว่าเป็นทีมที่ขึ้นๆ ลงๆ ถึง 3 ฤดูกาล แต่ไม่ว่าอย่างไรทีมก็ยังจบในอันดับที่เป็นครึ่งแรกของตารางมาตลอด แถมทีมยังได้ไปเตะในถ้วยยุโรปเป็นประจำทุกปี แต่ต่อมาทีมเกิดมีปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้เขาก็เลยถูกบังคับให้ต้องจัดการทีมด้วยจำนวนผู้เล่นที่ไม่มาก
และด้วยมีงบประมาณที่จำกัด แต่ไม่ว่าอย่างไร ผู้จัดการทีมชาวสก็อตคนนี้ ก็ยังจะได้คว้ารางวัลส่วนตัวมาครองได้อยู่ดี เรียกว่าก็กลายเป็นการสั่งสมเกียรติประวัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับตัวเขาเองเท่านั้นแต่ เดวิด กลับมาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ ก็ตอนที่ โค้ช เวฟเวอร์ตันปัจจุบัน พาทีมไปแพ้ให้กับทีมเชลซีในนัดชิงชนะเลิศ เอฟ เอ คัพปี 2009นั่นเอง
ด้วยความที่เป็นนักคิดตัวจริงเสียงจริง
ปี 2012 เขาก็ได้รับการจารึกชื่อว่าเป็นผู้คุมทีม จากเมอร์ซี่ยไซด์ได้เป็นเวลาครบ 1 ทศวรรษซึ่งเขาก็ยังมีการไล่ล่าถ้วยแชมป์ของเขาต่อไป จะว่าไปแล้วเขาก็มีจุดแข็ง คือการเป็นสุดยอดนักคิดตัวจริงเสียงจริง แถมยังมักจะกระตุ้นให้นักเตะของเขานั้น มีความฟิตอยู่ในระดับสูงอยู่เสมอ พร้อมกับอยู่ในกฎเกณฑ์อื่นๆ ที่ต้องชัดเจนมากอีกด้วย
เขาเป็นคนหนึ่งที่เคร่งครัดในกฎระเบียบอยู่เสมอ เขามักจะลงโทษบรรดานักเตะ พวกที่มักปากเสียและเอาเรื่องราวที่ออกไปพูดให้สื่อต่างๆ ฟังซึ่งถ้าหากว่าเขาไม่อนุญาตหรืออาจจะไปทำผิดกำอะไรมาก็ตาม เขามักจะไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ซึ่งไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือว่าเรื่องใหญ่ก็ตามค่ะ
สรุปแล้ว เดวิด มอยส์ คือกุนซือที่ยึดมั่นพร้อมกับทำตามระเบียบ
จุดสูงที่สุดในอาชีพของเขาก็คือ ตอนที่พาทีมคว้าอันดับที่ 4 ของพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2004-2005 ส่วนเรื่องที่เขาช้ำมากที่สุดก็ตอนที่ทีมดันไปแพ้ให้กับเชลซี ในนัดชิงชนะเลิศในศึกเอฟ เอ คัพนั่นแหละ นั่นก็เพราะว่าทีมของเขานั้นเป็นฝ่ายนำไปก่อน แต่กลับมาแพ้ได้นี่สิ
ก่อนหน้านี้ บิลล์ เดนไรท์ ที่เป็นประธานสโมสรของเอฟเวอร์ตันเคยรั้งเดวิด มอยส์ ไว้ไม่ให้ไปอยู่กับแมนยู ซึ่งตอนนั้นบรรดาแฟนคลับก็รู้ดีว่าพวกเขาได้พยายามรั้งเดวิท อย่างเต็มที่แล้ว และเขาก็กลายเป็น โค้ชแมนยูฯ ที่เข้าไปคุมทีมยักษ์อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาแล้วนั่นเองค่ะ