คาร์โล อันเชล็อตติ สุดยอดกุนซือหมายเลขหนึ่งตลอดกาล

คาร์โล อันเชล็อตติ

ถ้าจะต้องยกย่องกุนซือสักคนเห็นทีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คาร์โล อันเชล็อตติ คนนี้เพราะเขาคือเฮดโค้ชที่สามารถการันตีความสำเร็จได้มากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียวซึ่งไม่แพ้นักเตะคนดังอย่างพวก ตํานานลิเวอร์พูล กองหน้า เพราะว่ามันคือเกียรติประวัติตลอดการทำงานที่ผ่านมาอย่างเขา มันสามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจน

และนับตั้งแต่ปี 2001 มาเราได้เห็น คาร์โล อันเชลอติ เทรนเนอร์ที่มีความยืดหยุ่นอย่างสูง ที่สามารถดึงเอาศักยภาพของตัวนักเตะออกมาได้และนำเอามาใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเขาคนนี้จะเคยเป็นคนที่แข็งกระด้างและไม่มีความยืดหยุ่นใดๆ เรียกว่า อาร์แซน เวนเกอร์ อายไปเลยทีเดียว

อันเชล็อตติ สมัยเป็นนักเตะ

คาร์โล อันเชล็อตติ เฮดโค้ชผู้ยึดมั่นกับ 4-4-2

ในสมัยที่ อันเชล็อตติ สมัยเป็นนักเตะ ก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดนักเตะอีกคน ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นอันเชล็อตติ สมัยเป็นนักเตะ ในตั้งแต่ฤดูกาล 1982-83 และไปเล่นให้กับเอซี มิลานอีก 2 สมัยตอนปี 1987-88 และ 1991-82 และแน่นอนว่าเขาเคยเล่นทั้งในเวทียูโรเปียนคัพ หรือปัจจุบันที่เรารู้จักว่ามันคือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปัจจุบัน แถมเขายังเคยคว้าแชมป์อีกสองสมัยติดกันด้วยคือ 1988-89และ 1989-90

ที่สุด อันเชล็อตติ สมัยเป็นนักเตะ ก็ประกาศแขวนสตั๊ด ในปี 1992 ในช่วงนั้นเองเป็นช่วงที่เขาไปอบรมและสอบใบอนุญาตในการเป็นโค้ชที่โคเวียร์ชาโน สถาบันชั้นนำที่อยู่ในประเทศอิตาลี และที่นี่เองเขาได้ฝากผลงานวิทยานิพนธ์เพื่อจบการศึกษาในการเป็นโค้ชที่มีชื่อว่า IL Futuro del Calcio: Piu Dinamicita ที่ถ้าแปลมาเป็นภาษาอังกฤษก็คือ The Future of Football:More Dynamism

และงานแรกของเขาก็คือเป็นผู้ช่วยโค้ชคู่บุญอย่าง อาร์ริโก ชาคคี เพื่อทำงานกับทีมชาติอิตาลีตอนปี 1992-1995 ซึ่งแผนการเล่นก็คือ 4-4-2 ซึ่งถ้าพูดถึงแผนการเล่นนี้คือเป็นแผน ที่มาทำลายธรรมเนียมการเล่นฟุตบอลแบบดั้งเดิมของอิตาลี และด้วยแผนการเล่นนี้นี่เองที่ได้สร้างอิทธิพลผ่านมายัง อันเชลอตติ พอวันที่เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชตัวจริง ให้กับเรจจินาและปาร์มาแต่ในที่สุด อันเชล็อตติ แชมป์ ก็มาหยุดกับการยึดติด ที่นักเตะคนดังอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน นั่นเองค่ะ

อันเชล็อตติ แชมป์

อันเชล็อตติ ประวัติ กับเบื้องหลังความสำเร็จอย่างท่วมท้นในฐานะเจ้ายุโรป

ตอนปี 2001 อันเชล็อตติ แชมป์ ได้เข้ามารับงานในทีม เอซี มิลาน ที่เข้าไปแทนที่ ฟาติห์ เตริม สัญชาติตุรกี ที่ก่อนหน้ามีผลงานที่ย่ำแย่มาโดยตลอด ทำให้เมื่อเขาได้เข้ามาทำหน้าที่ต่อเขาก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนคลับอย่างมากเพราะว่าก่อนหน้า เขาก็ทำให้ทางยูเวนตุสล้มเหลวนะ แต่การที่ถูกเลือกให้เข้ามาคุมทีมก็น่าจะเป็นเพราะว่า อันเชล็อตติ แชมป์ เคยเป็นหนักเตะที่นี่หรือเปล่า

และถึงแม้ว่า อันเชล็อตติ ประวัติ มีผลงานของเขาก็คือพาทีมคว้าแชมป์ กัลโซ่ เซเรียอา ได้มาแค่ 1 สมัยแต่สำหรับแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยส์ลีกได้ถึง 2 สมัย ทำให้ผลงาน อันเชล็อตติ เชลซี ตลอดการคุมทีมของเขานั้นดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมาก

ต่อมาในฤดูกาล 2006-07 มิลานกลับสูญเสียนักเตะฝีเท้าดีอย่าง อังเดร เซฟเซนโก ไปให้กับเชลซีด้วยค่าตัวคือ 30 ล้านปอนด์ ทำให้งานนี้กุนซือคนเก่ง ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ ซึ่งตั้งชื่อแบบเก๋ไก๋ว่าแผนแบบต้นคริสต์มาส นั่นก็คือแผน 4-3-2-1 ที่มองแล้วก็เหมือนต้นคริสต์มาสแหละ ที่เอา ฟิลิปโป ให้ยืนที่กองหน้าเพียงคนเดียว แต่ให้แนวรุกได้รับการสนับสนุนจาก คลาเรนว์ และริคาร์โด

แต่ส่วนของกองกลางกลับยืนประกบไปสามคน คือ อันเดีย และอีกสองคนที่ถือว่าเป็นผึ้งงานคือ มัสชิโม และ เจนนาโร และแผนนี้ของ ลันเซลลอตติ ประวัติ นี่เองทำให้ในฤดูกาลนั้น ทีมก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่คือสามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ

อันเชล็อตติ ประวัติ

หลังจากนั้นเขาก็เคยไปคุมทีมให้ เชลซี 2009 ซึ่งที่นี่มีเรื่องให้เขาต้องอึดอัดใจหลายอย่างเพราะต้องเตรียมแผนให้บรรดาซุปตาร์ ที่ไม่มีอะไรที่ง่ายสักอย่างเดียว ทำให้ โค้ช เช ล ซี ล่าสุด ตอนนั้นหันใจไปหา ปารีส แชงต์ แชร์กแมงช่วงเวลาสั้นๆ และต่อมาก็ไปอยู่กับ เปแอสเซ , เรอัล มาดริด และในที่สุดก็ถูกทาบทามให้กลับบ้านเก่าอย่าง เอซี มิลานแต่เขาเลือกจะปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าขอรักษาตัวจากอาการผ่าตัดช่องไขสันหลังตีบ

ต่อมาก็มา อันเชล็อตติ ประวัติ กลับมาเริ่มงานอีกครั้งคราวนี้ไปช่วยที่ บาเยิร์น มิวนิก แต่น่าเสียดายไม่สำเร็จแถมนักเตะก็กดดันให้เขาอยู่ไม่ได้ ทำให้งานนี้เขาเลยไปซบอก นาโปลี ซึ่งก็หย่อนยานเรื่องการซ้อมทำให้ตกเก้าอี้จากนาโปลีอีกครั้ง แน่นอนว่าเมื่อเอฟเวอร์ตันทราบข่าวก็คว้าตัวเขาไปช่วยคุมทีมให้ทันที

สรุป คาร์โล อันเชล็อตติ ทำให้แฟนคลับมองว่าเป็นกุนซือระดับกลางๆ ของวงการ ฟุตบอลโลก 2022

และจากการที่ อันเชล็อตติ เอฟเวอร์ตัน กลับมารับงานอีกครั้งทำให้หลายคนกลับมองว่าเขาเริ่มจะอยู่ในอาชีพที่เป็นขาลงซะแล้ว แต่ด้วยความที่เขาเคยมีชื่อเสียงมาแล้วทำให้ อาเมสโรดริเกซ อยากจะมาร่วมทีมด้วยที่เอฟเวอร์ตัน และนี่ก็กลายเป็นข่าวที่ลือกันไปทั่วโลก และการมาของอาเมสนี้เองทำให้มีผู้ติดตามเพจเอฟเวอร์ตันมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรทีมก็ไม่สามารถสำเร็จได้อย่างที่หวังเพราะเขาพาทีมเข้าไปอยู่ในอันดับที่ 10 ของตารางเท่านั้น

แต่ท้ายที่สุด เรอัล มาดริด กลับต้องการคนที่เข้าใจธรรมชาติของทีมราชันชุดขาว และทำให้ชื่อของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ได้เข้าไปอยู่ในทีมชุดบริหารอีกครั้ง และถึงแม้ว่าทีมราชันชุดขาวภายใต้การนำของเขา ไม่มีแท็กติกอะไรที่ใหม่หรือว่าโดดเด่น ทำให้คนที่มองมาต่างก็เข้าใจกันดี ว่าเขายังคงศรัทธาในการเล่นแบบเดิม คือแบบที่เขาเคยทำให้ประสบความสำเร็จมาแล้วนั่นเองค่ะ