เพราะอะไร ชาบีอลอนโซ่ ถึงเป็นกุนซือที่ใช่..!!!

ในวงการฟุตบอลไม่น่าจะมีใครไม่รู้จัก ชาบีอลอนโซ่ เพราะว่าครอบครัวของเขากลายเป็นตระกูลฟุตบอลขนานแท้และดั้งเดิม ซึ่งตระกูลของเขานี้ได้มีการสืบต่อกันมาแบบรุ่นต่อรุ่นซึ่งความดังไม่ได้แพ้ มูริญโญ่ และ นักเตะดาวรุ่ง 2024 และพวกเขาก็คือตระกูลที่ให้กำเนิดทายาทผู้โด่งดังในเวลาต่อมานั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่า ชาบี อลอนโซ่ ภาษาอังกฤษ คือ Xabier Alonso Olanoกลายเป็นความภูมิของวงศ์ตระกูล

ชาบี อลอนโซ่ ig คนนี้เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณพ่อ เปริโก้ อลอนโซ่ ที่เป็นอดีตซูเปอร์สตาร์ดังของทางบาร์เซโลน่า และคุณแม่อย่างเรอัล โซเซียดาด ซึ่งเคยโด่งดังยุค 80 ปี ด้วยความที่ ชาบี อลอนโซ่ ig และพี่ชาย ได้ติดตามคุณพ่อไปดูการแข่งอยู่เสมอและเป็นประจำทำให้พวกเขาก็เลยได้มีโอกาสซึมซับและเติบโตมากับทีมเยาวชน ของเรอัล โซเชียดาด

ชาบีอลอนโซ่ กับพรสวรรค์ที่โดดเด่น

ตั้งแต่ ชาบี อลอนโซ่ ig เริ่มเข้ามาอยู่ในเส้นทางของฟุตบอล ทำให้หลายคนก็เห็นถึงความสามารถที่ดูเหมือนว่าเขาจะมีความเปล่งประกายของคนดัง แถมยังเล่นได้ดีกว่าพี่ของเขาอย่าง มิเกล มาก ๆ ซึ่งตอนที่เขาอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้นเขาก็ได้ลงเล่นนักแรกในชีวิตของการเป็นนักฟุตบอล

และนัดนี้แหละที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล ซึ่งเป็นนัดที่ทาง เรอัล เซียดาด แข่งขันกันกับ โลโกรนเญส ที่สนามซาน เซบาสเตียนในวันที่ 1 ธ.ค. 1999 ทำให้เขาได้กลับมาเล่นไปอีกถึง 14 นัดในฤดูกาลนั้น และเมื่อผ่านฤดูกาลนั้นเขาก็กลายเป็นนักเตะที่ถูกยืมตัวเพื่อจะได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และถึงแม้จะไม่ค่อยได้ลงไปโชว์ฟอร์มสักเท่าไร แต่เมื่อกลับบ้านอีกคราวนี้เขาก็กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งไปในทันที เพราะพาทีมสร้างประวัติศาสตร์ได้รองแชมป์ไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เส้นทางฟุตบอลทำให้เขาโด่งดังขึ้น

จากตำแหน่งมิดฟิลด์แข้งทองที่มีชื่อเสียงเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาก็เลยถูกเรียกเข้าไปอยู่ในทีมชาติสเปนอย่างรวดเร็ว และในช่วงปลายๆ ฤดูกาลนั้นเองประมาณวันที่ 30 เม.ย.เป็นเกมที่ทีมของเขาต้องพบกับ เอกวาดอร์ เขาก็ได้โชว์ฟอร์มถล่มคู่ต่อสู้ไปถึง 4-0 ประตู

อย่างไรก็ดี เมื่อความแรงของความสามารถเขามันพร้อมจะระเบิดฟอร์มขนาดนี้แล้ว แต่หากว่าเขายังอยู่กับทีมเดิมอยู่แน่นอนว่าเขาก็จะไม่สามารถที่จะสร้างปรากฏการณ์ได้อีกต่อไป ทำให้ต้องแสวงหาทีมใหญ่ที่จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้เขาเติบโตที่มากยิ่งขึ้น และในฤดูกาล 2004-2005 ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ถือว่าเป็นครั้งสำคัญของชีวิตเขาคือได้ถูกทาบทางจากทีมที่อยู่ในลีกสูงสุดอย่างพรีเมียร์ลีก ซึ่งทีมนั้นก็คือ หงส์แดง ลิเวอร์พูล

และที่นี่แหละที่กลายเป็นที่แจ้งเกิดแบบชัดเจนให้กับเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขา และยิ่งเมื่อได้เข้าไปจับคู่กับสตีเว่น เจอร์ราร์ดที่เป็นกัปตันทีมด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หงส์ติดปีก เพราะมีคู่หูกองกลางที่ดีที่สุดทำให้เขาได้รับคำชมและขึ้นแท่นกองกลางที่ดีที่สุดของยุโรปในเวลาที่ไม่นานอีกด้วย

กองกลางคนสำคัญที่ ลิเวอร์พูล ขาดไม่ได้

จากคำถามที่ว่า ชา บี อ ลอน โซ่ อยู่ ลิเวอร์พูล กี่ ปี แน่นอนตลอดระยะเวลา 5 ปีที่อยู่กับทีมหงส์แดงด้วยฟอร์มาการเล่นที่โดดเด่น กับการวางบอลที่แม่เหมือนจับวางและยิ่งไกลที่ช่วยหวังผลรวมในลูกฟรีคิก ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากบรรดาเซียนดัง ซึ่งแค่ผ่านไปฤดูกาลแรกเขาก็ได้รับเกียรติยศยิ่งใหญ่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในสมัยที่ 5 ของหงส์แดง ซึ่งตามมาด้วยเกมมหัศจรรย์อีกหลายลูก

จนทำให้เขาคือกองกลางคนสำคัญที่ทาง ลิเวอร์พูล ถึงขนาดออกมาบอกว่าทัพหงส์แดงอาจจะขาด เจอร์ราร์ดได้ แต่ไม่สามารถจะขาด อลินโซ่ไม่ได้

ในฐานะที่เป็นกัปตันทีมชาติเขาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทีมเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งถือว่าเป็นความน่าเสียดายของทัพกระทิงดุ แต่ในฤดูกาล 2007-2008 เขาได้รับเกียรติให้กลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยม และในนัดสุดท้ายที่ต้องเจอกันกับกรีซ และทีมกระทิงดุก็สามารถคว่ำทัพเยอรมันได้สำเร็จในนัดชิงชนะเลิศ

ทำให้ได้มีโอกาสฉลองแชมป์เป็นครั้งแรกในปีนั้นเองค่ะ และสุดท้ายตอนฤดูกาล 2009/2010 เขาก็ต้องจากลิเวอร์พูลไปอยู่กับทีมเรอัล มาดริด และในที่สุดก็ผันตัวไปเป็นโค้ช

ชาบีอลอนโซ่ กับอานาคตที่จะต้องเลือกคือจะอยู่ต่อหรือไปหาประสบการณ์แทน คลอปป์

แน่นอนว่าเมื่อเข้ามาอยู่ในสายอาชีพของกุนซือ เขาก็ยังคงเป็นโค้ชหนุ่มในวัย 42 ปี และยังคงสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตอนที่นำ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ขึ้นแท่นเป็นแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมันเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ที่ทำให้ ฟุตบอลฝรั่งเศส มีเสียวสันหลัง แถมยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายจาก 22 นัดคือ ชนะ 18 เสมอ 4

และเมื่อ ข่าว ชา บี อ ลอน โซ่ ล่าสุด คุณชายแห่งวงการลูกหนังมีผลงานระดับโค้ชได้ไปขนาดนี้ ทำให้ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม ชา บี อ ลอน โซ่ ถึงเป็นกุนซือเนื้อหอมจนถึงขนาดจะถูกโยงเข้าถึงตำแหน่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมของ หงส์แดง และยิ่งเมื่อ คลอปป์ ประกาศว่าจะวางมือด้วยแล้ว ชื่อของเขาก็เลยกลายเป็นอันดับต้นๆ ที่ถูกวางตัวจะให้มานั่งเก้าอี้กุนซือของ ลิเวอร์พูล อย่างไม่ต้องสงสัย

ซึ่งในขณะนี้ก็เป็นการพูดกันไปปากต่อปากว่าถ้าหากไม่ใช่ ชาบีอลอนโซ่ แล้วล่ะก็ใครล่ะที่จะมาแทนเจอร์เกิ้น คล็อปป์ ซึ่งงานนี้ก็ต้องไปดูกันว่า ชาบี อลอนโซ่ ปัจจุบัน มีอะไรดีกว่า รูเบน อโมริม หรือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ และ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ซึ่งถ้าหากว่ามีอะไรที่ดีกว่าแม้แต่นิดเดียวความหวังที่จะได้เข้าไปดูแลลิเวอร์พูลแทนที่ คลอปป์ ก็จะได้เปรียบอย่างแน่นอนค่ะ